วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การโดดเรียนยกห้องครั้งที่ 2 (มั้ง?)

08:20 Posted by Cocoapun No comments

การโดดเรียนยกห้องครั้งที่ 2 (มั้ง?)

     วันนี้เปิดเทอมเป็นวันที่สาม หลังจากเพิ่งสอบแกทแพทเสร็จ และจะสอบกสพท.ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ( 7 พ.ย. 58 ) เพื่อนก็ขาดเรียนกันเยอะมาก มากันประมาณครึ่งห้อง พอคาบบ่ายเป็นวิชาภาษาไทย ก็มีผู้ชายส่วนนึงโดดกลับบ้านไปแล้ว คนที่เหลือพอขึ้นมาบนห้องกันก็ร้อนมาก เพื่อนเลยแอบครูเปิดแอร์แต่พอเปิดได้แค่แป๊บเดียวแพรวก็โทรมาหาปั๊บว่าจะโดด ทีนี้เลยเหลือพวกที่อยู่บนห้องน้อยมากก แพรวก็บอกว่าถ้าจะโดดก็ให้รีบๆโดดกันเพราะครูขึ้นมาแล้ว พวกที่อยู่บนห้อง (ประมาณเกือบ 20 คน) ก็เลยตัดสินใจโดดกัน รีบปิดแอร์แล้วหนีลงบันไดอีกฝั่งของตึก ทีนี้พอลงมาแล้วก็คิดว่าจะไปอยู่ที่ไหนกันดี สุดท้ายก็ตัดสินใจกันว่าจะไปนั่งหน้าสวัสดิการแล้วโทรบอกครูวิชาต่อไปให้ไปสอนตรงนั้น เพื่อนก็ไปเจรจากับครูเรียบร้อย

     หมดคาบไทย ครูตั้มจากห้องปกครองโทรมาหาปั๊บว่าครูวณ.โทรไปห้องปกครองว่าไม่มีใครมาเรียนเลย ครูตั้มก็ให้ไปเคลียกับครูวณ. แต่พอเพื่อนไปหาครูก็ไม่อยู่ เลยไม่ได้คุยอะไร แล้วพรุ่งนี้มีคาบไทยคาบแรกเลย สงสัยจะโดนด่าแต่เช้า -__-

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คืนก่อนสอบ PAT3

09:15 Posted by Cocoapun No comments

คืนก่อนสอบ PAT3
 
     29 ตุลาคม 2559 เริ่มสอบ PAT 3 เป็นวันแรกของการสอบแกทแพท เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะสอบแล้ว ตื่นเต้นโคตรรรร อยากแต่งนิยายมาก อยากแต่งฟิค อยากอ่านนิยาย อยากทำทุกอย่างไปหมด จริงๆตอนนี้เราควรจะนอนได้แล้ว แต่นี่ก็ยังนั่งดูโคนันอยู่ เห้ยย พรุ่งนี้สอบนะเว้ยย

     ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ก็จะทำข้อสอบให้เต็มที่ ต้องมีสติแล้วก็ห้ามง่วง

     ....จะนอนแล้วแต่ขออ่านวายก่อน

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แปลเพลง Fight Song - Rachel Platten

06:10 Posted by Cocoapun No comments

Fight Song


Like a small boat on the ocean
Sending big waves into motion
Like how a single word can make a heart open
I might only have one match but I can make an explosion
เหมือนกับเรือลำเล็กๆ ในมหาสมุทร
ส่งคลื่นลูกใหญ่ ให้เกิดการเคลื่อนไหว 
เหมือนกับคำหนึ่งคำ สามารถเปิดใจคนได้
ฉันอาจจะมีแค่ไม้ขีดก้านเดียว แต่ฉันก็ทำให้มันระเบิดได้

And all those things I didn't say
Wrecking balls inside my brain
I will scream them loud tonight
Can you hear my voice this time
และทุกอย่างที่ฉันไม่ได้พูดออกไป
 มันทำลายจิตใจของฉัน
คืนนี้ฉันจะกรีดร้องให้ดัง
 ดูสิว่าครั้งนี้คุณจะได้ยินเสียงฉันไหม

This is my fight song
Take back my life song
Prove I'm alright song
My power's turned on
(Starting right now) I'll be strong
I'll play my fight song
And I don't really care if nobody else believes
'Cause I've still got a lot of fight left in me
นี่เป็นเพลงแห่งการต่อสู้
เพลงที่จะนำชีวิตของฉันกลับมา
เพลงที่พิสูจน์ว่าฉันไม่เป็นอะไร
พลังของฉันถูกเปิดขึ้นแล้ว
(มันได้เริ่มขึ้นแล้ว) ฉันจะแข็งแกร่ง
ฉันจะเล่นเพลงแห่งการต่อสู้
และฉันไม่สนใจแม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อก็ตาม
เพราะฉันยังมีเรื่องให้สู้อีกมากมาย

Losing friends and I'm chasing sleep
Everybody's worried about me
In too deep say I'm in too deep (I'm in too deep)
And it's been two years
I miss my home
But there's a fire burning in my bones
And I still believe yeah I still believe
การสูญเสียเพื่อนและการที่ฉันรีบเข้านอน
มันทำให้ทุกคนเป็นกังวล
 พวกเขาบอกว่าฉันคิดมากเกินไปแล้ว
และมันผ่านมาสองปีแล้ว
ฉันรู้สึกคิดถึงบ้านของฉัน
แต่ฉันยังรู้สึกได้อยู่ลึกๆ
และฉันยังคงมีความเชื่อ

And all those things I didn't say
Wrecking balls inside my brain
I will scream them loud tonight
Can you hear my voice this time
และทุกอย่างที่ฉันไม่ได้พูดออกไป
 มันทำลายจิตใจของฉัน
คืนนี้ฉันจะกรีดร้องให้ดัง
 ดูสิว่าครั้งนี้คุณจะได้ยินเสียงฉันไหม

This is my fight song
Take back my life song
Prove I'm alright song
My power's turned on
(Starting right now) I'll be strong
I'll play my fight song
And I don't really care if nobody else believes
'Cause I've still got a lot of fight left in me
A lot of fight left in me
นี่เป็นเพลงแห่งการต่อสู้
เพลงที่จะนำชีวิตของฉันกลับมา
เพลงที่พิสูจน์ว่าฉันไม่เป็นอะไร
พลังของฉันถูกเปิดขึ้นแล้ว
(มันได้เริ่มขึ้นแล้ว) ฉันจะแข็งแกร่ง
ฉันจะเล่นเพลงแห่งการต่อสู้
และฉันไม่สนใจแม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อก็ตาม
เพราะฉันยังมีเรื่องให้สู้อีกมากมาย 

Like a small boat on the ocean
Sending big waves into motion
Like how a single word can make a heart open
I might only have one match but I can make an explosion
เหมือนกับเรือลำเล็กๆ ในมหาสมุทร
ส่งคลื่นลูกใหญ่ ให้เกิดการเคลื่อนไหว 
เหมือนกับคำหนึ่งคำ สามารถเปิดใจคนได้
ฉันอาจจะมีแค่ไม้ขีดก้านเดียว แต่ฉันก็ทำให้มันระเบิดได้

This is my fight song
Take back my life song
Prove I'm alright song
My power's turned on
(Starting right now) I'll be strong
I'll play my fight song
And I don't really care if nobody else believes
'Cause I've still got a lot of fight left in me
Now I've still got a lot of fight left in me
นี่เป็นเพลงแห่งการต่อสู้
เพลงที่จะนำชีวิตของฉันกลับมา
เพลงที่พิสูจน์ว่าฉันไม่เป็นอะไร
พลังของฉันถูกเปิดขึ้นแล้ว
(มันได้เริ่มขึ้นแล้ว) ฉันจะแข็งแกร่ง
ฉันจะเล่นเพลงแห่งการต่อสู้
และฉันไม่สนใจแม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อก็ตาม
เพราะฉันยังมีเรื่องให้สู้อีกมากมาย
ฉันมีเรื่องให้สู้อีกมากมาย


Songwriters
Bassett, Dave / Platten, Rachel

Published by
Lyrics © EMI Music Publishing, Sony/ATV Music Publishing LLC

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[SF Kuroko no basuke / Aomine x Kuroko] ข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า

12:32 Posted by Cocoapun , , , 4 comments

ข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า


Type : Short Fic
Fandom : Kuroko no Basuke
Paring : Aomine x Kuroko / AoKuro / ฟ้าดำ
Rate : PG-13
Author : Cocoapun


อาโอมิเนะ ไดกิ เด็กหนุ่มม.ปลายที่ไม่ว่าใครๆก็ต้องรู้จัก เพราะเขาทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง แถมยังเล่นกีฬาเก่งอีกด้วย ดูเหมือนอะไรๆก็ดูจะเพอร์เฟ็คไปเสียหมด จนสาวๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างพากันมีใจให้เขากันมากมาย แต่อาโอมิเนะคนนี้นั้นไม่ได้สนใจใครเลย คนที่เขาให้ความสำคัญด้วยก็มีแต่...


"อาโอมิเนะคุง ว่างหรือเปล่าครับ" คุโรโกะ เท็ตสึยะ เพื่อนบ้านของอาโอมิเนะเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาขณะที่เจ้าตัวกำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบคณิตศาสตร์วันจันทร์ที่จะถึงนี้


"ก็ว่าง แต่นายเข้ามาได้ยังไงน่ะเท็ตสึ" เจ้าของห้องถามด้วยความสงสัย


"คุณแม่ของนายให้ผมขึ้นมา คือผมมีเรื่องอยากรบกวนหน่อย ไม่ร้ว่าอาโอมิเนะคุงจะสะดวกหรือเปล่า"


"อ่า นายมีอะไรเหรอ" อาโอมิเนะถามด้วยความสงสัย เพราะปกติคุโรโกะนั้นแทบจะไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อะไรที่คุโรโกะเอ่ยปากขอมันต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากแน่ๆ


"คือ... ผมอยากให้อาโอมิเนะคุงช่วยสอนสถิติหน่อยได้ไหมครับ คือผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ถ้าอาโอมิเนะคุงไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ"


"แล้วถ้าฉันไม่สอน นายจะว่าไง" อาโอมิเนะแกล้งพูดลองใจ


"ผมก็คงต้องลองไปถามคางามิคุงดู แต่อาจจะต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนสักหน่อย เขาถึงจะยอมสอน"


"อะไรแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนอะไร?!" อาโอมิเนะพูดพร้อมจ้องเขม็งไปที่เด็กหนุ่มผมฟ้าตรงหน้า


"ก็คางามิคุงเขาชอบมาขอหอมแก้มผมอยู่เรื่อย บางทีถ้าผมยอมให้เขาหอมเขาอาจจะยอมสอนก็ได้" พูดจบคุโรโกะก็เดินก้มหน้าไปเพื่อจะออกจากห้อง


"เห้ยๆ หยุดเลย" ร่างสูงรีบคว้าเอวคนที่กำลังจะเดินออกไปไว้ก่อน "ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น จะไปให้มันสอนทำไม ไอ้หัวแดงนั่นมันโง่จะตายไม่รู้เหรอ"


"ก็ในเมื่อนายไม่อยากสอน ผมก็ต้องไปหาคนอื่น"


"แล้วฉันบอกเหรอฮะว่าไม่อยากสอน คิดเองเออเองทั้งนั้น"


"ก็..."


"พอเลยๆ เลิกพูดแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะไป เดี๋ยวฉันลงไปถามแม่ก่อนว่ามีอะไรให้กินหรือเปล่า"


"ขอบคุณครับ" คนตัวบางส่งยิ้มน้อยๆให้เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้นทำให้อีกคนใจเต้นเร็วจนแทบไม่เป็นจังหวะ


"เออๆ รู้แล้วน่า" อาโอมิเนะรีบเดินออกจากห้องทันทีเพราะกลัวคนตัวเล็กจะได้ยินเียงหัวใจที่มันเต้นรัวอยู่ในอกเขาตอนนี้...


-------------------------------------


"นี่ฉันบอกไปตั้งหลายรอบแล้วนายยังจำสูตรไม่ได้อีกเหรอ นี่นายได้เข้าเรียนหรือเปล่าเนี่ย" อาโอมิเนะถามเพราะเขาอยู่คนละห้องกับคุโรโกะ


"ก็ตอนเรียนเรื่องนี้ผมหลับอยู่นี้ครับ"


"โอ้ยฉันอยากจะบ้า งั้นลองทำโจทย์ดูแล้วกัน เดี๋ยวทำไปเรื่อยๆก็น่าจะจำได้เอง ตรงไหนไม่เข้าใจฉันจะอธิบายให้"


"เอางั้นก็ได้ครับ"


ระหว่างที่คุโรโกะกำลังตั้งใจทำข้อสอบอยู่นั้นอาโอมิเนะเองก็เผลอแอบมองหน้าคนข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว คุโรโกะน่ะเป็นคนที่หน้าตาน่ารักไม่หยอกเลย ตัวเองมีคนมาจีบตั้งหลายคนแต่กลับมองไม่ออกว่าพวกนั้นมาจีบ เขาต้องเป็นคนคอยกันตลอด คนใสซื่ออย่างคุโรโกะน่ะตามไม่ค่อยทันคนอื่นหรอก


มองต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงริมฝีปากเล็กน่ารัก จนคนแอบมองนั้นอยากจะจับมากัดเล่นสักทีสองที แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความคิด เมื่อสังเกตดูดีๆ อาโอมิเนะก็เพิ่งเห็นว่าวันนี้คุโรโกะใส่เสื้อกล้ามมา และด้วยความที่คุโรโกะตัวเตี้ยกว่าเขาอยู่มาก เมื่อมองจากมุมที่สูงกว่านี้ทำให้เขาเห็นไปถึงเนินอกขาวของคนตัวบาง


อ่า... นี่นายคงไม่รู้ตัวสินะว่ากำลังยั่วฉันอยู่น่ะเท็ตสึ เขาคิดในใจ


ก่อนจะได้จินตนาการไปถึงไหนต่อไหน คนตัวเล็กก็โพล่งขึ้นมาซะก่อน


"นี่! นายดูข้อนี้สิโจทย์มันผิดหรือเปล่า ไม่ได้ให้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตมาแล้วฉันจะหามัธยฐานได้ไง" พูดพร้อมกับยื่นกระดาษข้อสอบให้อาโอมิเนะทันที


"เอ่อ... อันนี้มันเป้นข้อมูลแจกแจงความถี่ ไม่ต้องใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตก็ได้ นายลองกลับไปดูสูตรดีๆสิ"


"จริงด้วยสิ ผมนี่ความจำแย่ชะมัดเลย"


"เอางี้ ฉันมีวิธีที่จะทำให้นายจำสูตรได้แม่นๆ แต่ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนนะ สนใจหรือเปล่า" อาโอมิเนะเริ่มความคิดเจ้าเล่ห์


"เอาสิครับ จะสอบวันจันทร์นี้อยู่แล้วแต่ผมยังจำอะไรไม่ค่อยได้เลย อาจารย์ก็ออกข้อสอบโหดมากด้วย ว่าแต่ผมต้องทำอะไรมั่งครับ" คุโรโกะตอบอย่างไม่มีความลังเลใจ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะต้องแลกอะไรเขาก็ยอมทั้งนั้น เพราะถ้าทำข้อสอบครั้งนี้ไม่ได้ นั่นหมายถึงเกรดของเขาก็จะยิ่งต่ำลงไปอีก (จากเดิมที่ต่ำอยู่แล้ว)


"ฉันจะให้นายทำโจทย์แบบนี้เหมือนเดิมแหละ เพียงแต่ว่าถ้าทำผิดหนึ่งข้อนายจะต้องให้ฉันหอมแก้มหนึ่งที ตกลงไหม" คนตัวสูงยิ้มอย่างมีเลศนัย


"อะไรกัน แบบนี้ผมก็เสียเปรียบแย่สิ ไม่เห้นมันจะช่วยให้จำสูตรได้ตรงไหนเลย" คุโรโกะแย้ง


"ช่วยสิ เดี๋ยวฉันจะให้เวลานายท่องสูตรแป๊บนึง แล้วค่อยเริ่มทำข้อสอบใหม่"


"แล้วมันจะช่วยได้ยังไงครับเนี่ย" คนตัวเล็กยังไม่หมดความสงสัย


"นายก็ไม่อยากโดนฉันหอมแก้มใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นสมองนายมันก็จะสั่งว่าให้รีบจำสูตรให้ได้จะได้ไม่โดนฉันหอมแก้ม หรือว่านายอยากโดนล่ะ"


"ไม่ครับ!" คุโรโกะส่ายหน้ารัวๆ


"งั้นก็รีบจำเข้าสิ" 


คุโรโกะรีบก้มหน้าไปอ่านหนังสือทันที จึงไม่ทันได้เห็นสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความชั่วร้ายของคนตรงหน้า


-----------------------------------------


"ผิดทั้งหมด 2 ข้อ ถือว่าทำได้ดีขึ้นเยอะมากเลยนะเนี่ย" อาโอมิเนะส่งกระดาษแบบฝึกหัดคืนให้คุโรโกะ อันที่จริงเขาแอบผิดหวังนิดนึงแฮะ อยากจะหอมแก้มคุโรโกะมากกว่านี้สักหน่อย


"เอ่อ... ตอนนี้ผมว่าผมพอเข้าใจแล้ว งั้นผมกลับบ้านเลยแล้วกันนะครับ ออกมานานแล้วเดี๋ยวคุณแม่จะเป็นห่วงเอา" คุโรโกะรีบพูดก่อนจะเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว


"เดี๋ยวสิเท็ตสึ ลืมข้อตกลงของเราไปแล้วเหรอ" แต่คนตัวโตก็ยังความแขนเขาไว้ได้ทัน


"อ่า... ไม่นี่ครับ ก็อาโอมิเนะคุงสัญญาว่าจะติวสถิติให้ผม ตอนนี้ก็ติวจบแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้วนะครับ"


"จะเล่นแบบนี้เหรอเท็ตสึ" อาโมนิเนะผลักคุโรโกะลงบนเตียงนอนที่อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะเขียนหนังสือ แล้วขึ้นคร่อมคนตัวเล็กทันที


"อะ อาโอมิเนะคุงจะทำอะไรน่ะครับ!"


"ก็ในเมื่อนายคิดจะผิดสัญญา ฉันก็ต้องคิดดอกเบี้ยสักหน่อย" อาโอมิเนะค่อยใช้มือหนึ่งล้วงเขาไปในเสื้อกล้ามตัวโคร่งของคุโรโกะ ส่วนอีกมือก็รวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้เหนือศีรษะ


"ยะ หยุดนะครับ ผ...ผมยอมแล้วก็ได้" คุโรโกะยอมจำนนในที่สุด


"พูดง่ายตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องโดนแล้วแท้ๆ ตอนนี้มาให้ฉันหอมแก้มซะดีๆ" อาโอมิเนะพลิกตัวไปนั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้านล่าง และให้คุโรโกะนั่งอยู่บนตักของเขา จากนั้นก็บรรจงฝังปลายจมูกลงบนผิดเนื้อเนียมนุ่มของคนตัวบางที่มีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาสักเท่าไหร่ เมื่อดมกลิ่มหอมจากข้างหนึ่งจนพอใจ ก็เปลี่ยนมาหอมแก้มอีกข้างบ้าง


คุโรโกะที่ตอนแรกไม่ยอมนั้นก็เผลอไผลไปกับสัมผัสอ่อนหวานที่ได้รับจนยอมอ่อนให้อีกฝ่ายในที่สุด วงแขนแกร่งที่อยู่ที่เอวเขาก็กระชับอ้อมกอดให้เข้ามามากยิ่งขึ้น ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธอะไร จะว่าไปเขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ


มันช่างเป็นการหอมแก้มที่ดูดพลังงานชีวิตมากจริงๆ...


เมื่อร่างสูงละปลายจมูกออกจากแก้มนิ่มของคนตัวเล็ก ทั้งคู่หันมาสบตากันพอดี ต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่พักใหญ๋จนบรรยากาศเริ่มอึดอัด


"เอ่อ.../เอ่อ..."


"ผมว่าผมกลับบ้านดีกว่า/ฉันว่านายกลับบ้านดีกว่า" ทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อมกันพอดี


คุโรโกะที่เพิ่งรู้ตัวว่าตนเองนั้นนั่งอยู่บนตักของอีกคนก็รีบลุกขึ้นมายืนข้างเตียงและหยิบข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน


"คือ...ให้ฉันเดินไปส่งไหม" อาโอมิเนะถาม


"เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ บ้านผมก็อยู่ข้างๆนี้เอง กลับก่อนนะครับ วันนี้ขอบคุณมากเลยที่ช่วยติวเลขให้ผม" ยังไม่ทันที่เจ้าของห้องจะเอ่ยอะไรออกมา คุโรโกะก็วิ่งออกจากห้องไปแล้ว ทิ้งให้อีกคนนั่งยิ้มอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงก่อนจะเริ่มคิดแผนว่าถ้าครั้งหน้าคุโรโกะมาขอให้ติวอีกจะใช้ข้ออ้างอะไรดี แต่ยังไม่ทันจะนึกแผนอะไรออก คนที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้ก็โผล่หน้าเข้ามาอีกครั้งพร้อมเอ่ยว่า...
.
.
.
.
.
.
.
.

"ผมว่าครั้งหน้า ผมไปให้คางามิคุงติวให้ดีกว่าครับ"


- จบ -


Talk Talk
เห้ยอยู่ดีๆก็อยากแต่งฟิคทั้งๆ ที่ตัวเองจะมีสอบเลขอีกสองวัน
บอกเลยว่าต้องการติวเตอร์แบบอาโอมิเนะคุงมาอยู่ข้างบ้านมาก /สิงน้องดำแป๊บ
ฟิคนี้ก็เหมือนจะมีสาระนิดนึงนะ 55555555
..ไปอ่านหนังสือต่อดีกว่า..

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ

.
.
.
เม้นให้เค้าด้วยนะ ><

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[ Short Fic The Maze Runner ] อาบน้ำหรรษา [ Thominho / Minho x Thomas ]


[Short Fic The Maze Runner] อาบน้ำหรรษา [Thominho / Minho x Thomas] 



Fandom : The Maze Runner
Paring : Minho/Thomas 
Rate : PG
Author : Cocoapun


- เนื้อเรื่องหลักไม่เกี่ยวกับในภาพยนตร์และในหนังสือนะคะ



          ทุ่ง เป็นที่ที่เด็กหนุ่มหลายสิบชีวิตอาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนเหตุผลที่ทุกคนถูกจับมานั้นไม่มีใครรู้ได้ เพราะพอทุกคนฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นนอกจากชื่อของตัวเอง ทุกๆเดือนจะมีเด็กหนุ่มเพิ่มมา 1 คน และวันนี้ก็เป็นวันที่เด็กหนุ่มคนใหม่จะถูกส่งมาในอีกไม่ช้า



          เสียงกึกกักดังขึ้นเรื่อยๆ เรียกทุกคนให้ไปรวมตัวกันอยู่ตรงหลุ่มที่เป็นที่มาของเสียง นั่นเป็นสัญญาณว่าสมาชิกใหม่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า



          เอาล่ะ ในที่สุดเขาก็มาถึงแล้ว



          "ที่นี่ที่ไหน"


          "ยินดีต้อนรับ เพียก"
          .
          .
         

          ผู้มาใหม่ไม่เข้าใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ มาอยู่นี่ได้ยังไง และถึงแม้เขาจะไม่จักความหมายของคำว่า เพียก แต่เขาคิดว่าไม่น่าจะใช่ความหมายดีแน่ๆ


          "เฮ่ ฉันไม่ใช่เพียกอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันอยากรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลย"


          "เอาล่ะเพียก ฉันจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆนะ เราเรียกที่นี่ว่าทุ่ง ฉันชื่อนิวท์ ส่วนคนนี้..." นิวท์ชี้ไปทางเด็กหนุ่มตัวโต ผิวสีเข้ม ดูท่าทางโหดไม่เบา "อัลบี เขาเป็นหัวหน้าของเรา ส่วนเรื่องอื่นๆไว้นายค่อยเรียนรู้เอาแล้วกันนะเพียก ตอนนี้ขึ้นมาก่อนเถอะ" นิวท์ยื่นมือไปให้โทมัสจับเพื่อจะได้ขึ้นมาจากกล่อง


          "ไงเพียก ว่าแต่นายชื่ออะไรน่ะ" พอถึงพื้น อัลบีก็ยิงคำถามใส่เขาทันที


          "ฉันชื่อ...โทมัส...คือฉันไม่เข้าใจ ทำไมฉันจำชื่อตัวเองได้แต่จำอย่างอื่นไม่ได้เลย" โทมัสถาม


          "เราทุกคนเป็นเหมือนกันเพียก ฉันจะให้นิวท์พานายไปที่พักก็แล้วกัน"


           
          นิวท์พาโทมัสมายังที่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นที่นอนของชาวทุ่ง ในนั้นจะมีของจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตในนี้รวมถึงพวกของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเสื้อผ้าหรือแปรงสีฟัน นิวท์อธิบายถึงสิ่งต่างๆที่จำเป็นต้องรู้ รวมถึงบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปฝึกงานตามแผนกต่างๆ และแนะนำให้โทมัสรู้จักกับชัค เด็กหนุ่มอ้วนๆ ที่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยที่สุดในนี้


          "ว่าไงเพียก ฉันชัค ดีใจจริงๆเลยที่นายมา จะได้มีเพียกมาแทนฉันสักที" ชัคพูดยิ้มๆ แสดงอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัด


          "โอเค งั้นต่อไปมีอะไรสงสัยก็ถามชัคแล้วกันนะ เพียกนี่รู้ทุกอย่างละมั้ง" พูดจบนิวท์ก็เดินออกไป


          "ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดสักอย่าง" โทมัสพูดขึ้น


          "เดี๋ยวอยู่ไปก็เข้าใจเองแหละ นี่นายหิวมั้ย ฉันจะไปหาฟรายแพนสักหน่อย เขาน่ะทำอาหารอร่อยทุกอย่างเลย"


          "ไปเถอะ ฉันไม่หิว"


          ชัคเดินออกไปแล้ว ตอนนี้ทั้งห้องเหลือโทมัสอยู่คนเดียว เขานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นึกถึงคำพูดของนิวท์ที่บอกว่ารอบๆทุ่งเป็นเขาวงกต ห้ามใครเข้าไปทั้งนั้นยกเว้นพวกนักวิ่ง ชักจะสงสัยแล้วสิว่าในนั้นมีอะไร เขาคิด




          กลางดึก


          หลังจากจบปาร์ตี้ฉลองน้องใหม่ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอนตามที่ประจำของตัวเอง ที่นอนของโทมัสนั้นก็อยู่ข้างๆชัค ซึ่งตอนนี้หลับสนิทไปแล้ว โทมัสแอบย่องออกไปจากที่พักอย่างเบาที่สุด เขาอยากไปดูเขาวงกตนั้นใกล้ๆว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ถึงแม้ตอนนี้ทางเข้าเขาวงกตขะปิดลงแล้ว แต่ก็ขอให้เขาได้สำรวจอะไรหน่อยเถอะ เพราะตั้งแต่เย็นชัคก็ตามติดเขาแจ จะให้พาไปดูเขาวงกตก็ไม่พาไป อ้างแต่ว่าจะบอกนิวท์ๆ เหอะ ไม่เห็นจะกลัวซักนิด


          พอเดินเข้ามาใกล้ๆอย่างนี้แล้วโทมัสก็พบว่าเขาวงกตยั้นมีขนาดใหญ่มาก แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปได้ใกล้กว่านี้ ก็มีคนเข้ามาขัดเสียก่อน


          "เฮ้ย ไอ้เพียกหน้าปลวก นั่นแกจะทำอะไรน่ะ" เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังของโทมัสทำให้เขาต้องหันไปมอง คนที่กำลังวิ่งเข้ามานั้นคือ มินโฮ เป็นนักวิ่ง ถามว่าทำไมเขาถึงรู้น่ะเหรอ ก็ชัคไงล่ะ


          "เอ่อ...ฉันแค่...นอนไม่หลับน่ะ" บ้าเอ๊ย เป็นข้ออ้างที่ห่วยแตกที่สุด เขาคิดในใจ


          "คิดว่าฉันจะเชื่อเรอะ นิวท์ไม่ได้บอกหรือไงว่าอย่ามาแถวนี้น่ะ ไม่รู้หรือไงว่าเขาวงกตนี่น่ะมันอันตราย ดีนะว่าปิดอยู่ ไม่งั้นนายอาจโดนโศกาต่อยได้" มินโฮพูดเสียงดุๆ พร้อมเดินเข้ามาประชิดแล้วคว้าจับข้อมือของโทมัสไว้โดยทีาเขาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว "ไป เดี๋ยวฉันจะพานายกลับไปนอนเอง" แล้วคนตัวสูงก็กึ่งลากกึ่งจูงเด็กใหม่ให้กลับไปยังที่พัก แต่คนที่ถูกลากก็ยื้อข้อมือเอาไว้


          "เดี๋ยวสิ ฉันขอเข้าไปใกล้ๆกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ"


          "ไม่! นายต้องกลับไปนอนเดี๋ยวนี้ โชคดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันตื่นมาเจอเนี่ย ถ้าเป็นคนอื่นมีหวังนายโดนสอบสวนยาวแน่ไอ้หน้าปลวก" มินโฮทำหน้าดุยิ่งกว่าเดิม ทำให้โทมัสไม่กล้าจะเถียงอะไร แล้วยอมเดินกลับไปด้วยดี อ่า...จริงๆเรียกว่าเดินกลับด้วยคงไม่ถูดสักเท่าไหร่ ต้องเรียกว่า ถูกลากกลับไปด้วย น่าจะตรงที่สุด          


          "โอเค นอนก็ได้ งั้นนายก็ปล่อยมือฉันได้แล้ว ฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า"


          "ไม่ อย่าพูดมากได้มั้ย รีบๆเดินซะก่อนที่ทุกคนจะตื่นมาเห็น"


           โทมัสไม่เข้าใจว่าทำไมทุกๆคนต้องไม่อยากเข้าใกล้เขางวกต แล้วเจ้าโศกานี่มันหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่มีใครเคยเห็นอีก หรือว่าเขาจะถามมินโฮดี


           ปากไวกว่าความคิด


          "นี่มินโฮ โศกามันหน้าตาเป็นไงเหรอ"


          "นายจะอยากรู้ไปทำไม" เอาอีกแล้ว มินโฮชอบทำเสียงดุอยู่เรื่อย


          "ก็แค่อยากรู้ แต่ไม่อยากรู้แล้วก็ได้" โทมัสโกหก ความอยากรู้ของเขาไม่มีวันหายไปหรอก


          "เฮ้อ...นายนี่มันถามได้อยู่เรื่อย เอาเป็นว่าโศกามันน่าเกลียดหน้ากลัวจนนายเห็นแล้วอยากอ้วก  แค่นั้นก็พอแล้ว"


          "นี่ๆแล้ว..." โทมัสที่ยังไม่หมดข้อสงสัยกำลังจะถามต่อ แต่ก็โดนขัดโดนคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า


          "เฮ้ย ถามอยู่นั่นแหละ นี่นายเพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงวันเลยไม่ใช่รึไง เป็นคนอื่นยังนั่งร้องไห้ขี้มูกไหลอยู่เลยมั้ง ให้ตายเหอะ ถ้าอยากรู้นักเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปดูเลยเอามั้ย" มินโฮประชด


           "จะพาไปจริงๆเหรอ ไปๆ" โทมัสที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลยก็รีบพยักหน้างึกๆ


           "โอ้ย ฉันประชดเว้ย มีแต่พวกนักวิ่งเท่านั้นแหละที่เข้าไปในเขาวงกตได้ เอาล่ะถึงที่พักแล้วก็รีบนอนซะ แล้วอย่าออกไปเพ่นพ่านที่ไหนอีก เข้าใจมั้ย"


           "อือๆ รู้แล้วล่ะน่า"


          ส่งโทมัสเข้านอนเสร็จมินโฮก็เดินกลับมาที่พักของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าทำไมจะต้องแอบมองเด็กใหม่นั่นตลอดเวลา ตั้งแต่กลับมาจากเขาวงกตแล้ว เขาเด็กใหม่นั่นนั่งอยู่คนเดียว ตอนแรกก็ว่าจะเข้าไปทักแต่นิวท์ก็ดันตัดหน้าเขาไปก่อน เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก จนมาถึงปาร์ตี้รับน้องใหม่ พอได้สังเกตดีๆแล้วเจ้าโทมัสนั่นก็จัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเลยทีเดียว โอเคอาจจะไม่ได้รูปร่างบึกบึนแบบเขาแต่ก็สมส่วน ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป แล้วยิ่งตอนได้จับข้อมือขาวๆนั่น ให้ตายเหอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายจะผิวนิ่มได้ขนาดนี้


          แล้วเขาจะมานั่งคิดเรื่องเด็กใหม่ทำไมวะเนี่ย นอนได้แล้วมินโฮ



          เช้าวันต่อมา


          โทมัสตื่นแต่เช้าเพราะคืนแรกของการนอนที่นี่ไม่ได้สะดวกสบายสักเท่าไหร่ แถมเปลแข็งๆยังทำให้เขาปวดหลังอีก    


          อ่า เหนียวตัวชะมัด แถวนี้มีที่อาบน้ำได้ตรงไหนมั่งเนี่ย โทมัสคิด แล้วเหลือบไปเห็นเพื่อนตัวกลมข้างๆที่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่


          ชัคก็คงจะรู้สินะ


          "เฮ้ชัค ชัค ที่อาบน้ำอยู่ตรงไหนน่ะ ชัคตื่นก่อนได้มั้ย" โทมัสเขย่าตัวชัคเบาๆ


          "หือ อะไรนะ ทำไมนายตื่นเร็วจัง ฉันยังง่วงอยู่เลย"


          "ฉันจะไปอาบน้ำ ที่อาบน้ำอยู่ตรงไหน"


          "อ๋อ เดินไปทางขวานะ เข้าไปในป่านิดนึง ตรงนั้นจะมีชาวเวอร์อยู่ เป็นของสมนาคุณจากคนที่ส่งเรามาอยู่ที่นี่น่ะ" พูดจบชัคก็ล้มตัวนอนต่อทันที


          โทมัสหยิบเสื้อผ้าและอุปกรณ์ก่อนจะเดินมาตามทางที่ชัคบอก


           มีชาวเวอร์จริงๆด้วยสินะ


           เช้าตรู่แบบนี้ยังไม่มีใครตื่นมาอาบน้ำเลยสักคน โทมัสจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แน่ล่ะเขาจะต้องอายอะไรในเมื่อทุ่งนี้มีแต่ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น


           เฮ้อ...สบายตัวจังเลย


          โทมัสที่อาบน้ำจนเพลินไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนตื่นเช้าอีกคนที่กำลังจะเข้ามาอาบน้ำเหมือนกันแต่เห็นร่างเรือนร่างขาวเนียนข้างหน้าเลยอดมองไม่ได้  


           บ้าเอ๊ย!


           "เอ่อ..." มินโฮเอ่ยขึ้นทำให้คนอาบน้ำอยู่รู้สึกตัวและทำหน้าเลิกลัก "ตื่นเช้าดีนี่"


          "อ่ะ...อื้ม ยังไม่ค่อยชินน่ะ นายจะมาอาบน้ำเหรอ ฉันอาบเสร็จพอดีเลย" อาบเสร็จที่ไหนกันล่ะ เขาเพิ่งจะเริ่มฟอกสบู่เอง แต่จะให้อยู่ต่อก็ไม่ไหวหรอกนะ ก็สายตาของมินโฮน่ะมัน...ทำให้เขาหน้าร้อนไปหมด อีกทั้งร่างสูงยังนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวปกปิดท่อนล่างไว้ผืนเดียว เผยให้เห็นกล้ามท้องที่สมบูรณ์แบบ


          อ่า...หน้าร้อนอีกแล้ว เป็นอะไรไปนะโทมัส    


          "งั้นฉันไป..."


          ด้วยความที่รีบเดินจนเกินไปที่พื้นยังทั้งเปียกอยู่ทำให้โทมัสทรงตัวไม่ได้จนเสียหลัก เห็นท่าไม่ดีมินโฮจึงรีบวิ่งเข้ามาเพื่อจะรับตัวโทมัสเอาไว้ไม่ให้ล้ม แต่กลับกลายเป็นว่าดันล้มด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าของโทมัสนอนทับอยู่บนตัวของมินโฮเรียบร้อย


          "เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่า นายไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย" ตอนนี้โทมัสลืมเรื่องที่เขาไม่ได้ใส่อะไรไปแล้ว สมองคิดอยู่แต่ว่าคนที่มาช่วยรับเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า


          "เอ่อ...ไม่ๆ ฉันโอเค แต่ว่านายเอ่อ..." มินโฮพูดพลางเหลือบตามองด้านล่าง ทำให้โทมัสรู้สึกตัว


          "อ๋อ นายคงหนักสินะ โทษทีๆ" โทมัสลุกขึ้นยืน ทำให้มินโฮมองเห็นร่างกายของเขาได้เต็มตา


          นี่เขาไม่รู้เลยใช่มั้ย ว่าที่ทำอยู่เนี่ยเขาเรียกว่าการ อ่อย


           "เอ่อ...ฉันว่านายไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่ามั้ย" มินโฮว่าพลางก้มหน้าลง พยายามไม่มองเรือนร่างขาวเนียนของคนตรงหน้า และอีกอย่างนึงก็คือเขาไม่อยากให้โทมัสเห็นว่าเขาทำสีหน้ายังไงเนี่ยสิ


           คำพูดของมินโฮทำให้โทมัสเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขากำลังยืนแก้ผ้าอยู่


           "เฮ้ ผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นเป็นไรเลย...ใช่มั้ย" โทมัสพยายามพูดกลบเกลื่อนความอายของตัวเองและรีบใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว


          "เอ่อ...งั้นฉันไปปลุกชัคก่อนดีกว่า ไม่รู้ป่านนี้ตื่นหรือยัง"  พูดจบโทมัสก็รีบก้มหน้าเดินออกไป แต่ก็ระวังไม่ให้ลื่นล้มอีก


          มินโฮที่ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะอยู่คนเดียวแต่เรือนร่างของโทมัสยังติดตาอยู่ ทำให้อะไรบางอย่างในร่างกายมันพลุ่งพล่าน ตามประสาชายหนุ่ม


          สาบานได้ว่าเขาไม่เคยคิดลามกกับร่างกายของผู้ชายด้วยกันเลย แต่กับโทมัสมันเป็นอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม


          เฮ้อ...สงสัยคงต้องรีบอาบน้ำแล้วออกไปวิ่ง จะได้เลิกคิดถึงเรื่องนั้นสักที


------------------------------------------ 


จบจ้า

ฟิคนี้เกิดจากควาฟินส่วนตัวล้วนๆ ตอนแต่งนี่เริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือคาแรคเตอร์โทมัสหรือชัคกันแนะ เอาเถอะ 555555

ส่วนชื่อเรื่องก็ สิ้นคิดมาก

เจอกันวันอยากแต่งต่อ